24 ชั่วโมง ของพนักงานออฟฟิศอย่างเราๆตับปฏิบัติหน้าที่อะไรบ้าง ?

[Chanapot]

ชีวิตพนักงานที่ทำงาน มีผลต่อตับ เป็นปริศนาที่ดูเหมือนจะตอบยากด้วยเหตุว่าถ้า ตับมีปัญหา ตับก็จะไม่แสดงออกโดยทันที ซึ่งต่างกับอวัยวะอื่นๆที่เจ็บเมื่อไรก็ส่งสัญญาณเตือนโดยทันที แม้กระนั้นสำหรับตับแล้วแม้ได้รับการทำร้ายร่างกายตับก็จะสามารถซ่อมแซมตนเองแม้กระนั้นก็บางทีก็อาจจะไม่โชคดีเสมอพร้อมหากตับได้รับการทำลายอย่างหนักและต่อเนื่องก็ส่งผลให้ตับแข็งหรือเป็น มะเร็งตับ ได้



แล้วใน ชีวิตพนักงานที่ทำงาน 1 วันอย่างพวกเราๆนั้นสร้างภาระให้ตับได้มากขนาดไหนมาดูกัน

อาหารเช้า ส่งผลต่อตับ 

มื้อยามเช้าที่รีบของวัยรุ่นที่ทำงานส่วนมากกับการดื่มกาแฟเพียงแค่ 1 แก้วหรือกระทั่งไม่ได้กินอะไรเลยทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็น ซึ่งถ้านับเวลาย้อนไปมื้อล่าสุดที่ร่างกายได้รับไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง แสดงว่าตับผู้ที่เป็นหน้าที่ส่งพลังงานแล้วก็สารอาหารไปยังส่วนต่างๆภายในร่างกายนั้นควรต้องดึงไกลวัวเจนที่เก็บสะสมไว้มากลายเป็นพลังงานในตอนเวลาเช้าและร่างกายยังต้องชดเชยคาร์โบไฮเดรตที่ใช้เพื่อการเปลี่ยนเป็นพลังอย่างเร็วก็เลยจำเป็นต้องกินในมื้อต่อไปมากขึ้นอีกด้วยซ้ำซึ่งแปลงเป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้ตับในการทำงานมากขึ้น

มลภาวะ พิษ มีผลต่อตับ

ตอนเวลาเช้ายังจำต้องเผชิญมลพิษบนถนนในทุกเมื่อเชื่อวันด้วยชีวิตที่รีบเร่งของชาวเมืองในขณะนี้ที่จำต้องพบกับมลภาวะต่างๆไม่ว่าจะเป็น ควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ พิษกลุ่มนี้ เมื่อได้รับการสะสมเป็นเวลานานอาจมีผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาวได้ ผลที่เกิดขึ้นจากการวิจัยจากองค์กรอนามัยโลกกล่าวว่า 80% ของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆของคนเรานั้น ล้วนแล้วแต่มีสาเหตุฐานรากเกี่ยวเนื่องจากการสัมผัสกับมลภาวะที่สะสมเป็นเวลานานทั้งหมดส่งผลต่อภายในร่างกายโดยยิ่งไปกว่านั้นตับที่เป็นศูนย์กลางแล้วก็กรองพิษของร่างกาย

Fast Food ส่งผลต่อตับ

พอมื้อเที่ยงตรงต่างคนต่างรีบเนื่องจากจำนวนมากบุคลากรออฟฟิศต้องรีบหามื้อกลางวันในช่วงเวลาเดียวกันซึ่งมื้ออาหารที่เหมาะกับในช่วงเวลานั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารจานด่วนหรืออาหารจานด่วนพร้อมกินได้ในทันทีแต่อาจส่งผลร้ายในระยะยาวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตับ เพราะเหตุว่าโดยมากอาหารจานด่วนนั้น ชอบมีแป้ง น้ำตาล ไขมัน แล้วก็โซเดียมสูงเกินความอยากของร่างกาย ทำให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกินในตับได้ซึ่งถ้าเกิดมีไขมันพอกมากๆ หรือแทรกในเนื้อตับมากมายเข้า ส่งผลเสี่ยงต่อการเกิดโรคไขมันพอกตับ ส่งผลให้เกิดภาวะตับอักเสบ ตับแข็งแล้วก็ โรคมะเร็งตับ ในที่สุด

ความเครียด มีผลต่อตับ

ตกบ่ายมีเรื่องสะสมให้เกิดความเคร่งเครียดอีกทั้งเรื่องเนื้องานที่ได้รับมอบหมายหรืองานด่วน งานแทรกส่งผลให้ วิธีทำร้ายตับจากความเครียดที่สะสม ทำให้ต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนรวมทั้งฮอร์โมนในกรุ๊ปความเคร่งเครียด ยกตัวอย่างเช่น คอร์ติซอล ซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นเยื่อของเซลล์ต่างๆในร่างกายจนถึงทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ตับแล้วก็ทำให้ความสามารถในการทำงานของภูมิต้านทานลดต่ำลงทำให้เกิดความย่ำแย่ต่อตับได้ ให้โอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาประทุษร้ายได้มากขึ้น นี่เป็นปัจจัยว่าเพราะเหตุใดเราถึงล้มป่วยจากความตึงเครียดได้

แอลกอฮอล์ บุหรี่ ส่งผลต่อตับ

และก็ก่อนกลับบ้านก็มีการพบปะ ดื่มแอลกอฮอล์ ดูดบุหรี่ สนทนากับเพื่อนฝูงสถานที่ทำงานทั้งยังเรื่องงาน เรื่องส่วนตั  แต่หารู้ไม่ว่าเป็นการทำลายตับโดยตรง เนื่องจากเซลล์ตับถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์รวมทั้งการสูบยาสูบ อีกทั้งสารพิษอะซีทัลดีไฮด์ จากแอลกอฮอล์ ทำให้โรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์และการดมควันจากบุหรี่ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระปะปนรวมทั้ง สารนิโคติน ที่เข้าไปกระตุ้นต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนส่งผลให้เซลล์ตับเกิดการความเสื่อมโทรม รวมทั้งแอลกอฮอล์ ยังให้แคลอรี่ สูงถึง 7 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม เทียบกับ คาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน ที่ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม ก็เลยไม่แปลกที่ สายดริ๊งก์ถึงเสี่ยงมีสภาวะอ้วนอ้วน!!!

นอนน้อย ส่งผลต่อตับ

แล้วก็ท้ายที่สุดกว่าจะได้นอนก็ยังนอนมืดค่ำ พักผ่อนน้อย โดยมากแล้ววัยรุ่นออฟฟิตทั้งหลายแหล่ก็ยังมิได้นอนทำให้กระบวนการทำงานกำจัดสารพิษในตับปฏิบัติงานได้ไม่เต็มกำลังส่งผลต่อการเกิดโรคร้ายที่ตามมาอีกทั้งตับอักเสบได้อย่างง่ายๆ ซึ่งตามทฤษฎีแล้วช่วง ห้าทุ่มถึงหนึ่งนาฬิกา ตรงเวลาที่จะเกิดขั้นตอนการกำจัดพิษในตับ ซึ่งควรจะจำเป็นต้องอยู่ในตอนการนอนสนิท

จากการกระทำแค่เพียง หนึ่งวันเราก็สร้างภาระให้ตับเรียกว่าทุกช่วงเวลาเลยก็ว่าได้ ไหนจะเป็นภาระหน้าที่ที่เราหลีกเลี่ยงมิได้หรือพยายามควบคุมและจากนั้นก็ทำเป็นยาก ฉะนั้นพวกเราก็เลยจำเป็นจะต้องที่ต้องหันมาดูแลสุขภาพตับเราให้มีร่างกายที่แข็งแรง ก่อนที่จะไม่เหลือตับให้ดูแล