• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตู้คอนโทรลกระแสไฟฟ้า คืออะไร

Started by luktan1479, August 17, 2023, 11:14:41 PM

Previous topic - Next topic

luktan1479

ตู้คอนโทรลไฟ เป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากใช้เป็นตัวคอนโทรลไฟฟ้าอีกทั้งระบบ หรือเครื่องจักรกลต่างต่างๆซึ่งทำหน้าที่คุมกระแสไฟฟ้านั่นเอง ตู้คอนโทรลไฟ ไปยังส่วนต่างๆของเครื่องจักร หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆมีหลายแบบ ลูกค้าสามารถประกอบตู้คอนโทรล เอาไว้ภายในงานต่างๆที่ต้องการได้ เป็นต้นว่า การคอนโทรลมอเตอร์ ควบคุมปั๊มน้ำ แล้วก็ยังประกอบตู้สำหรับใช้คอนโทรลเครื่องจักร ซึ่งแบ่งตู้ได้ตามลักษณะการนำไปใช้งาน และก็ตามขนาด ตู้คอนโทรลไฟ ที่ใช้ในงานซึ่งมีหน้าที่แตกต่างออกไป ดังนี้
  • ตู้สวิทซ์บอร์ด หรือ ตู้ MDB (Main Distribution Board) ตู้ MDB เป็นตู้ควบคุมระบบกระแสไฟฟ้าหลัก แนวทางการทำงานของตู้ MDBคือการรับไฟที่ส่งมาจากการไฟฟ้าหรือ ต้านเเรงดันต่ำของหม้อเเปลงกระแสไฟฟ้าเเล้วจึงจ่ายโหลดไปยังส่วนต่างๆของอาคาร เเละมี Main Circuit Breaker รอเป็นตัวตัดต่อวงจรไฟฟ้าทั้งหมดมีเเผงจ่ายไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยทั่วไปใช้กันในตึกที่มีขนาดกลางขึ้นไป รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟในปริมาณมาก
  • ตู้เเผงควบคุมกระแสไฟฟ้ารอง หรือ SDB,DB (Sub Distribution Board) ตู้ควบคุมไฟฟ้ารอง จ่ายกระเเสกระแสไฟฟ้าไปตามตู้ PB. (Panel board) หรือ Load Center หลายๆตู้ขึ้นอยู่กับขนาดของอาคารลักษณะคล้ายกับ ตู้สวิทซ์บอร์ดเเต่มีขนาดเเละพิกัดของตู้เล็กกว่า เเละอุปกรณ์ทางไฟฟ้าข้างในก็ลดหลั่นลงมา
  • ตู้ MCC (Motor Control Center) คือ ตู้เเบบตั้งกับพื้นที่ประกอบไปด้วยตู้เเนวตั้งเเละเป็นศูนย์รวมของชุดควบคุมมอเตอร์ โดยชุดควบคุมมอเตอร์จะติดตั้งเหนือชุดควบคุมมอเตอร์อื่นๆในเเนวตั้งเเละชุดควบคุมมอเตอร์กลุ่มนี้จะมีบัสในเเนวตั้งที่ต่อกับบัสกำลังในเเนวนอน
  • ตู้ PFC (Power-factor-Correction) ในระบบไฟฟ้ากำลังการปรับปรุงค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ มีความหมายอย่างมาก เนื่องด้วยเป็นตัวที่ทำให้ค่าครองชีพต่างๆเพิ่มขึ้นหรือน้อยลงได้ ระบบกระแสไฟฟ้าที่มีค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ต่ำจะมีการสิ้นไปในระบบมากมาย เพราะฉะนั้น อุปกรณ์ที่นำมาใช้งานควรต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ค่าครองชีพสำหรับเพื่อการซื้อเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆมากขึ้น

ฉะนั้นการปรับแต่งค่าเพาเวอร์เเฟคเตอร์ให้มีค่าสูงขึ้นจึงมีความสำคัญต่ออาคารสำนักงานเเละโรงงานอุตสาหกรรมนั้นๆความเป็นจริงในตึกหรือโรงงานอุตสาหกรรมต้องการกำลังไฟฟ้าจริง (Real Power) เเละพลังงานไฟฟ้า รีเเอคทีฟ (Reactive - Power) เพื่อใช้สำหรับในการทำงาน