• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - waanbotan_

#1
สำหรับใครที่กำลังวางแผนที่จะขยับขยายที่อยู่อาศัย การขอสินเชื่อบ้านเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องใช้เวลาในการพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินสร้างบ้าน ซื้อบ้าน หรือซื้อคอนโด ผู้กู้ควรเปรียบเทียบข้อมูลสินเชื่อจากหลาย ๆ ธนาคารเพื่อหาอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่ดีที่สุด หากคุณวางแผนผ่อนระยะยาว ควรเน้นเลือกธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำที่สุด แต่ถ้าคุณตั้งใจจะผ่อนระยะสั้นหรือวางแผนปิดหนี้ก่อนครบสัญญา ควรพิจารณาธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยในช่วงสามปีแรกที่ต่ำที่สุด

รวมมาให้แล้วกับ 10 อันดับสินเชื่อบ้านที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยใน 3 ปีแรกต่ำที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนสมัครสินเชื่อธนาคาร และจะรีไฟแนนซ์เมื่อครบ 3 ปี:

ธนาคารออมสิน: ดอกเบี้ย 2.45% ผ่อนต่ำล้านละ 2,500 บาท/เดือนในปีแรก และกู้นานถึง 40 ปี
ธนาคารซีไอเอ็มบี: ดอกเบี้ย 2.49% และกู้นานสูงสุด 35 ปี
ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์: ดอกเบี้ย 2.50% ให้วงเงินกู้เพิ่มสูงสุด 10% พร้อมสิทธิพิเศษอื่น ๆ กู้นานถึง 40 ปี
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา: ดอกเบี้ย 2.55% ให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน และมีส่วนลดดอกเบี้ยในปีแรก
ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี): ดอกเบี้ย 2.75% ให้วงเงินกู้สูงถึง 50 ล้านบาท หรือ 100% ของราคาประเมิน พร้อมสิทธิพิเศษอื่น ๆ
ธนาคารกรุงไทย: ดอกเบี้ย 3.00% ให้วงเงินกู้สูงสุด 100% และมีดอกเบี้ยพิเศษในปีแรก
ธนาคารยูโอบี: ดอกเบี้ย 3.35% วงเงินกู้เริ่มต้นที่ 5 แสนบาท สูงสุด 50 ล้านบาท กู้นานถึง 30 ปี
ธนาคารอาคารสงเคราะห์: ดอกเบี้ย 3.55% ให้กู้นานสูงสุด 40 ปี
ธนาคารกรุงเทพ: ดอกเบี้ย 3.966% ให้กู้นาน 30 ปี เลือกผ่อนชำระได้หลายแบบ
ธนาคารไทยพาณิชย์: ดอกเบี้ย 5.95% ให้กู้นาน 30 ปี มีดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าโครงการหรือองค์กร

และนี่คือ 5 อันดับสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่สุดตลอดอายุสัญญา เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนผ่อนกับธนาคารเดิมจนจบสัญญา:
ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์: ดอกเบี้ย 3.54%
ธนาคารทหารไทยธนชาต และธนาคารกรุงศรีอยุธยา: ดอกเบี้ย 4.02%
ธนาคารกรุงไทย: ดอกเบี้ย 4.27%
ธนาคารกรุงเทพ: ดอกเบี้ย 4.48%
ธนาคารซีไอเอ็มบี: ดอกเบี้ย 4.60%

ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการสมัครสินเชื่อบ้านในปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบข้อมูลซ้ำอีกครั้งก่อนตัดสินใจ
#2
บัญชี เงินฝากกระแสรายวัน อาจไม่ใช่ผลิตภัณฑ์การเงินที่แพร่หลายในกลุ่มบุคคลทั่วไปมากเท่ากับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือบัญชีเงินฝากประจำ หนึ่งในสาเหตุสำคัญก็เนื่องมาจากการที่หลายคนเข้าใจว่า บัญชี เงินฝากกระแสรายวัน เหมาะกับการใช้ในการดำเนินธุรกิจเท่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้วบัญชี เงินฝากกระแสรายวัน เช็คเครดิต เหมาะกับการใช้งานในรูปแบบใดบ้าง และมีประโยชน์รวมถึงข้อดีอย่างไร เราจะพาไปดูพร้อม ๆ กัน

ความแตกต่างระหว่างบัญชี เงินฝากกระแสรายวัน กับบัญชีเงินฝากประเภทอื่น ๆ
บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ถือเป็นพื้นฐานของบัญชีเงินฝากทั้งหมด เนื่องจากเป็นบัญชีที่ทำรายการฝาก-ถอน-โอนได้ง่าย ได้รับดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง แต่จะถูกหักภาษีดอกเบี้ยไปด้วยเช่นเดียวกัน
บัญชีเงินฝากประจำ มีข้อกำหนดหลายอย่างเพื่อกระตุ้นให้ผู้ฝากปฏิบัติตามเงื่อนไข แลกกับการได้รับดอกเบี้ยในอัตราสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป หากไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ในระยะเวลาที่ระบุไว้ เช่น ฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน อัตราดอกเบี้ยก็มักจะถูกลดลงมาเป็นระดับเดียวกับบัญชีออมทรัพย์ สำหรับภาษีดอกเบี้ยเงินได้มีทั้งแบบปลอดภาษีเมื่อทำตามเงื่อนไขได้ครบและแบบหักภาษีดอกเบี้ย ดังนั้นก่อนเปิดบัญชีเงินฝากประจำจึงควรศึกษาเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ครบถ้วนก่อน เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่
บัญชี เงินฝากกระแสรายวัน มีความคล่องตัวในรูปแบบที่แตกต่างจากบัญชีออมทรัพย์ เนื่องจากบัญชี เงินฝากกระแสรายวัน ใช้เช็คเป็นเครื่องมือเบิกถอนเงินสดออกจากบัญชี แม้ผู้ฝากจะไม่ได้พกเงินสดติดตัวเป็นจำนวนมากก็สามารถสั่งจ่ายเช็คเป็นยอดเงินจำนวนมากได้อย่างปลอดภัยเพียงขีดคร่อมเช็ค และยังสามารถสั่งอายัดเช็คได้เมื่ออีกฝ่ายไม่ทำตามข้อตกลงซื้อขาย ผู้ฝากจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือเปิดบัญชีในนามนิติบุคคลก็ได้เช่นเดียวกัน

ข้อดีของบัญชีกระแสรายวัน
เปิดบัญชีในนามนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดาก็ได้
ขอเปิดวงเงินเบิกเกินบัญชี หรือวงเงิน O/D บนบัญชีนี้ได้ เช่น ยอดเงินฝากจริง 100,000 บาท แต่ผู้ฝากสามารถสั่งจ่ายเช็คเกิน 100,000 บาทได้ ตามวงเงิน O/D ที่ขอไว้
ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยแค่ส่วนที่เบิกเกินตามจำนวนวันจริง หากใช้บัญชีนี้โดยไม่มีการเบิกเกินวงเงินฝากจริง ธนาคารก็จะไม่คิดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ใช้สร้างเครดิตระหว่างการเจรจาซื้อขายได้สะดวก เช่น การสั่งจ่ายเช็คล่วงหน้า หากผู้ขายส่งของครบตามเงื่อนไขผู้ขายก็สามารถนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันที่ระบุหน้าเช็ค แต่หากผู้ขายไม่สามารถปฏิบัติตามที่ตกลงกันไว้ได้ ผู้ซื้อ/ผู้สั่งจ่ายเช็คก็สามารถสั่งอายัดเช็คได้เช่นเดียวกัน
ใช้เช็คจากบัญชีกระแสรายวันเป็นหลักค้ำประกันเงินกู้ได้
การสั่งจ่ายผ่านเช็คขีดคร่อมช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากการพกเงินสดติดตัวจำนวนมาก

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะสังเกตได้ว่านอกจากบัญชีกระแสรายวันจะเหมาะกับการดำเนินธุรกิจแล้ว ก็ยังเหมาะกับบุคคลทั่วไปซึ่งมักจะเจรจาซื้อขายสินค้า/บริการที่มีมูลค่าสูงด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับผู้สนใจเปิดบัญชีประเภทนี้สามารถสอบถามเงื่อนไขและข้อกำหนดจากธนาคารที่สะดวกได้ทุกแห่ง แม้ว่ายอดเงินเปิดบัญชีขั้นต่ำอาจจะสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ ลอตเตอรี่ ออนไลน์    ซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์ ขึ้นเงินสลากกินแบ่งรัฐบาล    รวมถึงบัญชีฝากประจำอยู่บ้าง แต่ประโยชน์ที่จะได้รับก็ถือว่าคุ้มค่า เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้ประกอบการและผู้ต้องการความคล่องตัวที่มาพร้อมกับความปลอดภัย
#3
สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ การที่จะประสบความสำเร็จในการเทรดนั้นต้องการการวางแผนการซื้อขายหุ้นที่ดี การปรับแต่งพอร์ตฟอลิโอให้เหมาะสม และการควบคุมความเสี่ยงเพื่อลดการขาดทุนให้น้อยที่สุด แต่นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์อีกหนึ่งทางลัดที่ช่วยให้เทรดเดอร์มือใหม่ประสบความสำเร็จได้ คือการกระจายความเสี่ยงผ่านการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ

ข้อดีของการลงทุน ซื้อขายหุ้นต่างประเทศ
เป็นโอกาสที่จะได้ลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งมีผลตอบแทนที่สูงกว่า ตัวอย่างเช่น ตลาดหุ้นสหรัฐนั้น ถือว่าอยู่ในอันดับ TOP 5 ในการจัดอันดับตลาดหุ้นที่มีผลประกอบการดีที่สุดในโลก และดีกว่าของไทย นั่นหมายความว่า หากคุณลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐ คุณจะมีโอกาสได้ทำกำไรในตลาดหุ้นที่ดีกว่าไทย

เป็นการกระจายความเสี่ยง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันความเสียหายอันเกิดจากความผันผวนของตลาดหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรากระจายการซื้อขายไป ซื้อหุ้นต่างประเทศ DR คือในกรณีที่เศรษฐกิจในประเทศไทยเกิดตกต่ำ การ ลงทุนหุ้นต่างประเทศ ก็ไม่ได้เกิดผลกระทบตามไปด้วยในทันที ทำให้มีเวลาวางแผนและแก้ปัญหาได้ทัน

หุ้นต่างประเทศนั้นเป็นหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงกลุ่มเฮลท์แคร์ อย่างเช่นหุ้นของ moderna เพราะบริษัทเหล่านี้จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีก้าวล้ำที่ไม่หยุดยั้ง เราจึงมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่มากกว่า เพราะมีอัตราการเติบโตของหุ้นและของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

ข้อเสียของการลงทุนกองทุนต่างประเทศ
ความผันผวนสูง: ตลาดการเงินต่างประเทศมักมีความผันผวนมากกว่าตลาดในประเทศ เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง และสกุลเงินที่แตกต่างกัน ทำให้มูลค่าของกองทุนอาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
ค่าธรรมเนียมสูง: โดยทั่วไปแล้ว กองทุนต่างประเทศจะมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่ากองทุนในประเทศ ทั้งค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน: ผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนต่างประเทศจะได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน หากสกุลเงินของประเทศที่ลงทุนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับบาทไทย ผลตอบแทนที่ได้รับก็จะลดลงด้วย
ข้อมูลข่าวสารจำกัด: นักลงทุนอาจเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทและตลาดในต่างประเทศได้ยากกว่าเมื่อเทียบกับตลาดในประเทศ ทำให้การตัดสินใจลงทุนมีความยากลำบากมากขึ้น
ความเสี่ยงทางกฎหมาย: กฎหมายและระเบียบข้อบังคับในการลงทุนในต่างประเทศอาจมีความซับซ้อนและแตกต่างจากในประเทศไทย ทำให้เกิดความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย
ภาษี: นักลงทุนอาจต้องเสียภาษีจากรายได้ที่ได้จากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งอาจมีความซับซ้อนและแตกต่างจากภาษีในประเทศไทย

สำหรับคำถามสุดท้ายก็คือ การลงทุนซื้อหุ้นต่างประเทศซับซ้อนยุ่งยากหรือไม่
บอกเลยว่าในปัจจุบันสะดวกสบายขึ้นมากเพราะธนาคารกรุงไทยนั้น ได้มอบบริการทางเลือกใหม่ของการลงทุนซื้อหุ้นต่างประเทศ สำหรับเทรดเดอร์หน้าใหม่หรือเทรดเดอร์รายย่อยให้สามารถซื้อขายในตลาดหุ้นไทยด้วยเงินบาท โดยการที่ธนาคารกรุงไทยได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้ออกตราสารแสดงสิทธิ์ในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า DR และ DRx หรือ depositary receipt ซึ่งสามารถอธิบายได้อย่างง่าย ๆ ว่า ธนาคารกรุงไทยจะทำหน้าที่ไปซื้อหุ้นจากต่างประเทศ แล้วมาเสนอขายให้กับเทรดเดอร์ไทยในฐานะผู้ถือหลักทรัพย์ต่างประเทศแทนนักลงทุนนั่นเอง

    ที่สำคัญก็คือ เทรดเดอร์สามารถซื้อขายขั้นต่ำในระดับย่อยมาก ๆ ถึงมีเงินน้อยก็ลงทุนได้ อย่างเช่น DR สามารถซื้อขั้นต่ำ 1 หน่วย, DRx สามารถซื้อขั้นต่ำ 0.0001 หน่วย เป็นต้น และเทรดเดอร์ยังสามารถลงทุนซื้อขายได้โดยไม่ต้องเปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์จากต่างประเทศ เพราะสามารถซื้อขายผ่านตลาดหุ้นไทย โดยได้รับผลตอบแทนเช่นเดียวกับการลงทุนในต่างประเทศโดยตรง


เห็นได้ว่าการลงทุนในการ ซื้อกองทุนขายหุ้นต่างประเทศ นั้น จะช่วยกระจายความเสี่ยงของการซื้อหุ้นแค่ในประเทศได้เป็นอย่างดี และเทรดเดอร์มือใหม่ยังมีโอกาสประสบความสำเร็จได้จากข้อดีของผลตอบแทนที่มากกว่าจากหุ้นที่ไม่มีในไทยอีกด้วย ติดต่อธนาคารกรุงไทยวันนี้ เพื่อเริ่มก้าวสู่ทางลัดไปสู่ความสำเร็จของคุณก่อนใคร
#4
ใครที่เป็นหนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นหนี้บ้าน หนี้รถ หนี้เงินกู้ หรือติดหนี้บัตรเครดิตและมีทีท่าว่าจะชำระจ่ายงวดไม่ไหว หนี้เยอะเครียด จะด้วยเหตุผลจากภาระที่เพิ่มมากขึ้น รายได้ลดลง หรือมีเหตุใด ๆ ให้ไม่มีเงินมาชำระหนี้ได้เหมือนเดิม และกำลังจะมองหาวิธีจัดการหนี้ดังกล่าวอยู่ บทความนี้เป็นประโยชน์สำหรับลูกหนี้ที่กำลังมีปัญหานี้อย่างแน่นอน เพราะเรามีวิธีจัดการให้หนี้นั้นรอดพ้นจากการเป็นหนี้เสีย หรือ NPL ได้ โดยที่ไม่ต้องเสียเครดิต วิธีนั้นก็คือ ขอปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งก่อนปรับโครงสร้างหนี้ เราควรรู้สิ่งเหล่านี้ก่อน เพื่อประโยชน์ของตัวลูกหนี้เอง
การปรับโครงสร้างหนี้ คืออะไร
   การปรับโครงสร้างหนี้ คือการปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ใหม่ เป็นการขอโดยฝ่ายลูกหนี้ ที่เห็นว่าตนไม่สามารถชำระหนี้ได้เหมือนเดิมตามเงื่อนไข สามารถยื่นขอ ปรับโครงสร้างหนี้ ได้เลยหากพิจารณาสถานการณ์ทางการเงินของตนแล้วว่า ไม่สามารถชำระตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญาเดิมได้ โดยไม่ต้องรอให้เป็นหนี้เสียก่อน ซึ่งถือเป็นวิธีการช่วยเหลือลูกหนี้ก่อนจะกลายเป็นหนี้เสีย สามารถยื่นขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ 2 ระยะได้แก่
เมื่อคิดว่าเริ่มชำระหนี้ไม่ไหว โดยที่ยังไม่เป็นหนี้เสีย
หลังจากที่เป็นหนี้เสียไปแล้ว
ข้อดีของการ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ลูกหนี้ไม่เสียประวัติ เมื่อเปรียบเทียบกับการปล่อยให้เป็นหนี้เสีย
เป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ ได้ลดภาระการจ่ายหนี้ให้เบาลง ไม่ต้องจ่ายหนักเท่าเดิม
สามารถทำได้กับหนี้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ปรับโครงสร้างหนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อ หนี้บ้าน และหนี้รถยนต์
ลดค่าใช้จ่ายในการถูกฟ้องร้อง หรือค่าธรรมเนียมในการติดตามทวงถาม
ข้อควรรู้ก่อน การปรับโครงสร้างหนี้ ที่ลูกหนี้ต้องรู้
   ก่อนที่เราจะยื่น ขอปรับโครงสร้างหนี้ เราควรรู้ก่อนว่า การปรับโครงสร้างหนี้แบบไหนเหมาะกับเรามากที่สุด โดยคำนึงถึงระยะเวลา และจำนวนเงินที่เรามีหรือจำนวนเงินที่เราสามารถผ่อนจ่ายได้ ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้นั้นมีให้เลือกดังต่อไปนี้
ลดอัตราดอกเบี้ย เป็นการลดเฉพาะช่วงเวลาตามกำหนด เช่น 3, 6 เดือน เฉพาะอัตราดอกเบี้ยของหนี้เดิมเท่านั้น
พักชำระเงินต้น แต่ก็ยังต้องจ่ายดอกเบี้ยอยู่ ส่วนเงินต้นที่ลดต้องดูเงื่อนไขว่า ทางสถานบันการเงินให้ไปจ่ายต่องวดสุดท้ายของสัญญา หรือเฉลี่ยจ่ายหลังจากครบงวดที่ขอพักชำระเงินต้น หรือไปจ่ายรวมทีเดียวในงวดสุดท้าย
ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ เป็นการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปนานกว่าเดิม แต่ยอดหนี้ที่ชำระน้อยลงกว่าเดิม
ผ่อนปรนดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ หากผิดนัดชำระหนี้ 1 งวด ลูกหนี้ที่มีประวัติเป็นลูกหนี้ที่ดีมาตลอดสามารถยื่นขอให้คิดดอกเบี้ยผิดนัดจากเงินต้นงวดนั้น ๆ ได้
เพิ่มเงินทุนหมุนวียน (working capital: WC) ยื่นขอกู้วงเงินเพิ่มจากรายจ่ายประมาณการล่วงหน้าจากสถาบันการเงินเดิม เพื่อขอวงเงินเพิ่ม
เปลี่ยนประเภทหนี้ คือการเปลี่ยนหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงไปเป็นหนี้ประเภทที่มีอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า เช่น ขอ ปรับโครงสร้างหนี้บัตรเครดิต ไปเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อแบบ Term Loan ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า เป็นต้น
หาเงินก้อนมาปิดหนี้ แม้ว่าจะมีจำนวนเงินที่น้อยกว่าจำนวนหนี้ แต่สามารถเจรจาเพื่อขอปิดหนี้ได้
รีไฟแนนซ์ หรือการเปลี่ยนเจ้าหนี้ใหม่ คือการหาเจ้าหนี้ใหม่ที่ให้เงื่อนไขที่ดีกว่า เช่น อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า หรือผ่อนในจำนวนที่น้อยกว่า ไปปิดหนี้เจ้าหนี้เดิม แล้วมาผ่อนตามเงื่อนไขของเจ้าหนี้ใหม่แทน

ก่อนยื่นขอ ปรับโครงสร้างหนี้ ลูกหนี้ควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าจะเลือกปรับโครงสร้างหนี้แบบไหน ที่เหมาะกับสถานภาพทางการเงิน ณ ขณะนั้น อย่ายื่นขอปรับโรงสร้างหนี้ในเงื่อนไขที่ตัวลูกหนี้รู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ เพราะจะส่งผลให้การยื่น ปรับปรุงโครงสร้างหนี้  เป็นหนี้ท่วมหัวครั้งใหม่ทำได้ยากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
#5
ปัจจุบันหากเราจะหวังเงินเดือนอย่างเดียวเชื่อว่าอาจจะไม่เพียงพอ จนหลายๆ คนมองหาการลงทุนในแบบที่แตกต่างออกไปซึ่งหนึ่งในการลงทุนที่ได้รับความนิยมคือการ เทรดทองออนไลน์ เนื่องจากเป็นวิธีการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูง และการ ลงทุนทองออนไลน์ นั้นไม่ต้องลงแรงจึงสามารถทำควบคู่ไปกับการทำงานประจำได้ไม่ยาก แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนในทองเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงหากไม่ระวังก็อาจทำให้ขาดทุนได้ โดยเฉพาะกลุ่มมือใหม่ที่มีประสบการณ์การลงทุนไม่มากและเข้าใจว่าเหมือนการลงทุนในหุ้น กองทุน หรือการ ซื้อทองออนไลน์ ปกติที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย ด้วยเหตุนี้เพื่อช่วยให้การ ลงทุนทองออนไลน์ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น วันนี้จึงมี 3 เคล็ดลับ เทรดทองคำ ให้ได้กำไรง่าย ๆ มาฝาก แต่จะมีเคล็ดลับอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย

ศึกษาการลงทุนอย่างละเอียด
ถึงแม้นักลงทุนส่วนใหญ่จะรู้กันดีอยู่แล้วว่าก่อนเริ่มลงทุนทุกประเภท สิ่งแรกที่ต้องทำคือการศึกษาการลงทุนประเภทนั้นให้ละเอียด แต่ถึงอย่างนั้นก็มั่นใจว่าด้วยความใจร้อนทำให้หลายคนลืมไปว่าการ ซื้อขายทองคำออนไลน์ นั้นมีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจลงทุนควรศึกษาประเภทของการลงทุนทองคำ ราคาทองคำย้อนหลัง ความน่าเชื่อถือของบริษัทตัวแทนเทรดทองออนไลน์ และวิธีการอ่านกราฟอย่างละเอียด
เริ่มต้นฝึกฝนด้วยเครื่องมือออนไลน์
หลังจากศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนทองคำเรียบร้อยแล้ว มั่นใจว่าเกินกว่าครึ่งต้องร้อนวิชาจนรีบไปเปิดบัญชีเพื่อเทรดทองทันที ซึ่งเชื่อว่ามีไม่น้อยที่ขาดทุนในเวลาอันสั้นเพราะขาดประสบการณ์ในการ เทรดทองคำออนไลน์ เพราะฉะนั้นหากอยากประสบความสำเร็จและได้กำไรจากการลงทุน แนะนำว่าควรฝึกฝนการเทรดจากบัญชีทดลองก่อนลงทุนด้วยบัญชีจริง ทั้งนี้เพื่อให้คุ้นเคยกับคำศัพท์และเครื่องมือต่าง ๆ ในโปรแกรม
ศึกษาและวางกลยุทธ์ในการลงทุนอยู่เสมอ
อย่างที่นักลงทุนมือเก่าและมือใหม่รู้กันดีอยู่แล้วว่าการลงทุนทองทุกประเภทมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการลงทุนในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าหรือ Gold Futures ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดของการลงทุนในทองคำ หากนักลงทุนมีการคาดการณ์การขึ้นลงของราคาทองผิดจะทำให้ต้องเพิ่มเงินลงทุนเพื่อใช้เป็นเงินหลักประกันหรือ Margin Call ดังนั้นแม้ว่าจะเริ่มมีประสบการณ์และได้กำไรจากการลงทุนทองออนไลน์ก็ไม่ควรละเลยการศึกษาหาความรู้บทวิเคราะห์ตามชุมชน  ไทยโกลด์  และติดตามสถานการณ์โลกอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนกลยุทธ์การลงทุนในแต่ละช่วง เพิ่มโอกาสในการทำกำไรมากขึ้น

เป็นอย่างไรบ้าง 3 เคล็ดลับ เทรดทอง ให้ได้กำไรง่าย ๆ ที่เรานำมาฝาก ซึ่งหากมือใหม่นำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ในการลงทุนทอง รับประกันเลยว่าได้กำไรอย่างที่หวังไว้แน่นอน
#6
ทุก ๆ การลงทุน ก่อนที่จะเห็นผลกำไรหรือขาดทุนก็มักจะต้องใช้ระยะเวลาอยู่พอสมควร อีกทั้งยังมีความเสี่ยงซึ่งจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถของผู้ลงทุนเองด้วย ในปัจจุบันจึงมีเทคนิคการลงทุนที่ทั้งมือใหม่และมือเก่าให้ความนิยมอย่าง กองทุนรวม เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ เพราะวิธีนี้ช่วยทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพสูงเชื่อถือได้ทั้งทางการเงินและการลงทุน

กองทุนรวม จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดเงิน หรือตลาดทุน แต่ติดขัดเกี่ยวกับอุปสรรคต่าง ๆ หลายอย่างทั้งทุนทรัพย์, ไม่มีประสบการณ์, ไม่มีความรู้, ไม่มีความชำนาญในการลงทุน, ไม่มีเวลาศึกษาค้นหาและติดตามข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจลงทุน

ข้อดีที่ได้จากการลงทุนในรูปแบบ กองทุน ตัวเลือกที่ดีที่พร้อมมอบผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนบนความเสี่ยงที่เหมาะสม

ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อเริ่มต้นลงทุน
มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกลงทุนที่หลากหลาย
สามารถขายคืนหน่วยลงทุนโดยใช้เวลาในการทำธุรกรรมไม่นาน
ได้รับสิทธิทางภาษีจากการเลือกกองทุนประเภท SSF และ RMF ซึ่งเป็น กองทุน ที่ภาครัฐให้สิทธิประโยชน์ ผู้ลงทุนสามารถนำจำนวนเงินที่ลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้ แต่ กองทุนรวม ทั้ง 2 หมวดนี้จะต้องใช้ระยะเวลาในการลงทุนที่ค่อนข้างนาน เช่น ประเภท SSF จะต้องลงทุนประมาณ 10 ปี และประเภท RMF ต้องลงทุนจนถึงอายุ 55 ปีขึ้นไป จึงจะเริ่มพิจารณาขายออกมาใช้ได้
มีผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุนช่วยดูแลในเรื่องสินทรัพย์และตรวจสอบผลประโยชน์ต่าง ๆ แทนนักลงทุน เป็นการเพิ่มโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
มีการกระจายการลงทุนออกไปในหลาย ๆ หลักทรัพย์เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี ช่วยให้นักลงทุนประหยัดเวลา ไม่ต้องมานั่งคิดวิเคราะห์เพื่อหาหลักทรัพย์ที่ดีในระยะยาวด้วยตัวเอง
ผู้เริ่มต้นสามารถ ลงทุนกองทุนรวม ด้วยจำนวนเงินที่ต่ำและสามารถทยอยลงทุนเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต เป็นการเริ่มต้นการลงทุนที่ง่ายและมีโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายได้ในระยะยาว

ผู้เริ่มต้นที่สนใจอยาก ซื้อกองทุนรวม สามารถทำได้ง่าย ๆ แค่ใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมสำเนาสมุดบัญชีธนาคารเพื่อใช้หักเงินในการซื้อหน่วยลงทุน พันธบัตรรัฐบาล หุ้น DR ไปทำการเปิดบัญชีกองทุนรวมได้ที่ธนาคารที่ให้บริการ หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวม โดยก่อนเปิดบัญชีจะต้องทำแบบประเมินว่าผู้ลงทุนมีความสามารถในการรับความเสี่ยงได้ในระดับไหน เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนได้พิจารณาจัดสรรกองทุนรวมที่เหมาะสมมานำเสนอให้ผู้ลงทุนเลือกลงทุนต่อไป

ทั้งนี้หากไม่สะดวกในการเดินทางไปเปิดบัญชีลงทุน ณ สถานที่ที่ให้บริการ ก็สามารถทำการ ซื้อกองทุน ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร หรือของบริษัทหลักทรัพย์ที่จัดทำขึ้นมาให้ใช้บริการได้ โดยแอปพลิเคชันส่วนใหญ่มักจะมีขั้นตอนง่าย ๆ เริ่มจากการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน > กรอกข้อมูลส่วนตัวพร้อมยืนยันตัวตน > ทำแบบประเมินความเสี่ยง เมื่อเสร็จแล้วให้เลือกกองทุนตามที่ต้องการและทำการชำระเงินลงทุนผ่านระบบออนไลน์ได้ทันที เพียงเท่านี้ก็สามารถ ลงทุนกองทุนรวม ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วแล้ว
#7
การมีบัตรเครดิต สำหรับหลายๆ คนอาจจะมีประโชน์มากมายถ้าเราใช้งานถูกต้อง แต่ถ้าเราใช้งานไม่รอบครอบ การเกิดหนี้บัตรเครดิตอาจจะเกิดขึ้นได้ ถึงเวลาโดนเรียกเก็บหนี้ทำการจ่ายให้ครบเต็มจำนวนหนี้โดยไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำหรือจ่ายบางส่วน  เท่านี้ก็จะไม่กลายเป็นคนที่มีปัญหากับการใช้จ่ายบัตรเครดิตแล้ว

ติดหนี้บัตรเครดิต มีหนี้เกินตัวทำอย่างไรดี
วันใดเมื่อรายจ่ายที่ออกไปมากกว่ารายรับที่เข้ามา การนำเงินในอนาคตจากบัตรเครดิตมาใช้ก่อนโดยไม่วางแผนการเงินให้ดี ย่อมทำให้กลายเป็นผู้ที่มีหนี้สินเกินตัวหรือเป็นลูกหนี้เอ็นพีแอลของสถาบันการเงินได้  แต่เรื่องนี้ยังมีทางออก ดังนี้
เช็กมูลค่าหนี้ทั้งหมดก่อนเริ่ม
ก่อนอื่นต้องแนะนำว่าเมื่อมีหนี้เกินตัวแล้วควรต้องปรับพฤติกรรมการใช้เงินใหม่ เริ่มจากการหยุดสร้างหนี้เพิ่ม นำยอดหนี้บัตรเครดิตทุกใบที่มีอยู่มารวมกันดูว่าตอนนี้มีหนี้รวมกันอยู่เท่าไหร่ แล้วเรียงลำดับความสำคัญ ให้กู้สินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิต    จากบัตรที่มีดอกเบี้ยสูงสุดเป็นหลักก่อนโดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นค่อย ๆ ทยอยปิดบัตรที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่าลงไป ซึ่งเรื่องนี้ยังสามารถเจรจากับสถาบันการเงินเจ้าของบัตรเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการขอลดดอกเบี้ย หยุดคิดดอกเบี้ยเป็นการชั่วคราว หรือลดหนี้บางส่วน
วางแผนทางการเงิน เพิ่มรายรับ-ลดรายจ่าย
เมื่อตั้งเป้าจะ ปิดหนี้บัตรเครดิต ให้เร็วที่สุดแล้ว ต้องทำควบคู่กับการวางแผนเรื่องรายรับ-รายจ่ายด้วย อาจจะต้องเริ่มจากการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว อะไรที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้ให้หยุดไว้ก่อน ลดรายจ่ายต่าง ๆ เพื่อเหลือเงินรายรับให้มากที่สุด แล้วนำไปจ่ายเพิ่ม หนี้บัตรเครดิต แทน รวมถึงการหารายได้เสริมจากงานปกติหรือแม้แต่การหาเงินก้อนมาโป๊ะหนี้ ด้วยวิธีการกู้สินเชื่อส่วนบุคคลที่คิดดอกเบี้ยต่ำกว่าบัตรเครดิต ซึ่งถือเป็นอีกทางออกหนึ่งที่ช่วยลดภาระจากดอกเบี้ยได้

การไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิตดีหรือไม่
ถ้าวันไหนเราเป็นหนี้ อย่า "ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย" เพราะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทางสถาบันการเงินพร้อมที่จะเจรจาให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว เพราะสถาบันการเงินเองก็ไม่อยากให้กลายเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้นอีก การที่เพิกเฉยต่อหนี้ที่มีอยู่ ไม่สนใจ ไม่จ่ายหนี้ ไม่ติดต่อกับสถาบันการเงินย่อมส่งผลให้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี เจ้าหนี้สามารถอายัดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือนมาชำระหนี้ได้ อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อประวัติด้านการเงินกลายเป็นบุคคลที่ติดแบล็กลิสต์กับเครดิตบูโร การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินในอนาคตจะเป็นเรื่องลำบากมากขึ้น

แน่นอนว่าใคร ๆ ก็ไม่อยากมีหนี้ไม่ว่าจะมากหรือน้อย แต่เรื่องนี้สามารถบริหารจัดการได้รวมหนี้เป็นก้อนเดียว หากมีการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน สินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิตจัดลำดับความสำคัญของเงินที่มีอยู่ และมุ่งมั่นที่จะปลดหนี้ให้ได้โดยเร็ว ซึ่งเชื่อได้ว่าสุดท้ายแล้วท่านจะกลายเป็นคนที่มีวินัยทางการเงิน บริหารจัดการด้านการเงินได้เป็นอย่างดี และปลอดภาระหนี้ได้ในที่สุด
#8
สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านไหนที่กำลังมองหา สินเชื่อต่อยอดธุรกิจ ให้ก้าวไปต่อได้ไม่สะดุด มีโอกาสได้รับเงินทุนหมุนเวียนจาก สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันที่ภาคธนาคารเตรียมวงเงินสนับสนุนธุรกิจสีเขียวที่มีความใส่ใจด้านปัญหาสิ่งแวดล้อม รับสิทธิกู้เงินง่าย ผ่อนยาวนาน สามารถต่อยอดธุรกิจไปอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ หลายธุรกิจได้เจอกับวิกฤติจากโควิด 19 ทำให้สินเชื่อหมุนเวียน ได้รับความนิยม เพื่อกอบกู้วิกฤตการเงิน มีเงินสำรองไว้เพิ่มการลงทุนหรือขยายธุรกิจออกไปอีก ซึ่งสินเชื่อเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม สินเชื่อเฉพาะทางอย่าง มีเป้าหมายชัดเจนในด้านการลดปัญหาผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากธุรกิจใดมีเป้าหมายชัดเจนในการดำเนินกิจการที่ไม่ก่อผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ก็มีสิทธิ์ได้รับ สินเชื่อขยายธุรกิจ เพื่อสนับสนุนแนวคิดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นิยามของโครงการสินเชื่อรักษ์สิ่งแวดล้อมประกอบไปด้วย
- การจัดการระบบดูแลบำบัดน้ำเสีย
- การป้องกันมลภาวะทางอากาศ
- ระบบกำจัดของเสีย ตลอดจนการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ
- การควบคุมวัตถุดิบการผลิต ลดการสิ้นเปลือง ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า
- การสนับสนุนพลังงานสะอาดที่ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ พลังงานทดแทน หรือเกษตรอินทรีย์
- สินค้าหรือบริการเพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมสิ่งแวดล้อม เช่น หลังคาโซลาร์เซลล์
   
หากธุรกิจ โรงงาน ร้านค้าที่มีคุณสมบัติตามข้างต้นนี้ มุ่งดำเนินกิจการและการลงทุนที่เน้นลดผลกระทบและลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจะได้รับวงเงิน สินเชื่อรายย่อย ตามความจำเป็นของธุรกิจเพื่อนำมาไปใช้หลากหลายตามความต้องการ ครอบคลุมถึงการใช้เงินลงทุนจัดสร้างระบบอากาศและบำบัดน้ำเสีย ระบบกำจัดขยะหรือรีไซเคิลกลับมาใช้งานใหม่ ในด้านอัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 2%-3% ขึ้นอยู่กับหลักทรัพย์ค้ำประกัน ได้แก่ หนังสือค้ำประกันของธนาคาร การโอนสิทธิ์บัญชีเงินฝาก และหลักทรัพย์อื่น ๆ ระยะเวลากู้นานถึง 7 ปี ผ่อนนาน ระยะเวลาปลอดเงินต้นไม่เกิน 2 ปี
เจ้าของธุรกิจที่ตื่นตัวกับกระแสรักษ์โลก คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม  สินเชื่อธุรกิจสีเขียว ต้องการลงทุนสร้างระบบจัดการพลังงานและขยะให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่สร้างภาพลักษณ์สีเขียวอย่างเดียว สามารถยื่นขอเงินกู้สำหรับธุรกิจสีเขียวเป็น สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง สินเชื่อเครื่องจักรทางการเงินได้

การขอสินเชื่อสำหรับธุรกิจใหม่ค่อนข้างเป็นเรื่องยาก เนื่องจากเป็นการจำกัดไม่ให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ลงทุนเกินตัว แต่สินเชื่อสำหรับธุรกิจสีเขียวเป็นการอำนวยความสะดวกด้านการเงินเพื่อให้การเตรียมระบบบำบัดน้ำเสียและขยะของเสียต่าง ๆ เป็นไปด้วยดีโดยไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากงบประมาณการจัดสร้างระบบเหล่านี้มีมูลค่าลงทุนสูง แต่มีความจำเป็นเพราะต้องใช้งานตลอดเวลาและช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคมดีขึ้น  และยังต่อยอดธุรกิจของเราได้อีกด้วย
#9
ถ้าหากพูดถึงการโอนเงินไปต่างประเทศที่หลายๆ คนน่าจะรู้จักกันดี น่าจะเป็นการโอนเงินไปต่างประเทศระบบ swift code แต่จะสะดวก หรือดีอย่างไรมาดูกัน

Swift Code คืออะไร
โอนเงินต่างประเทศแม้จะมีหลายรูปแบบ แต่การโอนเงินผ่านระบบ Swift  ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะธนาคารหลายประเทศเลือกใช้ระบบการโอนนี้ เนื่องจากมีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือมากกว่าการโอนเงินระบบอื่น โดย Swift ย่อมาจากคำว่า Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication เป็นรหัสของธนาคารที่ใช้ในการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งธนาคารบนโลกมีมากกว่า 1 หมื่นแห่ง ในแต่ละวันมีปริมาณการทำธุรกรรมมหาศาล ระบบ Swift สามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว และมี Swift Code อันเป็นรหัสบ่งบอกธนาคารของผู้รับโอน เช่น เมื่อต้องการโอนเงินจากประเทศไทยเพื่อส่งค่าเล่าเรียนของบุตรในต่างประเทศที่ธนาคาร ABBEY NATIONAL TREAURY SERVICE PLC จะมีตัวอักษรและตัวเลขทั้งหมด 11 ตัว ได้แก่  ANTSGB2LXXX  "ANTS" คือชื่อย่อของธนาคารนี้ "GB" คือประเทศอังกฤษ ส่วน "2L" ระบุที่ตั้งของธนาคารคือลอนดอน สุดท้ายตัวอักษร "XXX" 3 ตัว บ่งบอกว่าเป็นธนาคารสาขาใหญ่ ส่วนใหญ่แล้วธนาคารในประเทศไทยจะไม่ใช้ตัวอักษร XXX เพื่อบอกว่าเป็นธนาคารสาขาใหญ่ จะละไว้เป็นฐานที่เข้าใจ เช่น KRTHTHBK เป็นตัวย่อ Swift Code ของธนาคารกรุงไทยสาขาใหญ่ เลขที่ 35 ถนนสุขุมวิท หรือถ้าเป็นเลขที่สาขาจะเป็น KRTHTHBKSRP ตัวอักษร 3 ตัวท้ายบ่งบอกว่าเป็นธนาคารกรุงไทยสาขาเสียมเรียม ประเทศกัมพูชา ดังนั้น โอนเงินไปต่างประเทศ แต่ละประเทศจะยังใช้ Swift Code บนพื้นฐานของ 8 – 11 ตัวอักษร

ค่าธรรมเนียมและระยะเวลาโอนเงินไปต่างประเทศ swift code ใช้เวลากี่วัน
ค่าธรรมเนียมการโอนเงินต่างประเทศ จะมีการคิดทั้งผู้รับและผู้โอน โดยฝั่งผู้รับธนาคารไทยส่วนใหญ่จะคิดค่าธรรมเนียม 400 บาท แต่ธนาคารกรุงศรีจะคิดค่าธรรมเนียมอยู่ราว 350 บาท ส่วนผู้โอนจะเสียค่าธรรมเนียมสูงกว่าผู้รับ และแต่ละสกุลเงินจะมีการคิดค่าธรรมเนียมแตกต่างกันออกไป เช่น ธนาคารกรุงไทยจะคิดค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างประเทศ 400 + 1,200 บาท สำหรับสกุลเงินยูโรและปอนด์สเตอร์ลิง ในขณะที่ค่าธรรมเนียมของธนาคารกรุงศรีจะอยู่ที่ 1,150 บาท หรือธนาคารกรุงเทพและธนาคารออมสินจะคิดค่าธรรมเนียมผู้โอนเป็น 400 + 0.05% ของจำนวนเงินที่โอนในสกุลเยน อย่างไรก็ตามระยะเวลาในการโอนจะแตกต่างกันออกไป แม้จะโอนเงินด้วยแอปโมบายแบงก์กิ้งยังต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงสำหรับบางสกุลเงิน และช้าสุดจะเป็นสกุลเงินโซนยุโรปที่กว่าเงินจะเข้าอาจใช้เวลาราว 5 วัน

ใช้แอปธนาคารโอนเงินไปต่างประเทศ
ขั้นตอนการโอนเงินด้วยระบบ swift codeนั้น เพียงใช้ชื่อ ที่อยู่ของผู้รับโอนเป็นภาษาอังกฤษ กรอก Swift Code ของธนาคารผู้รับโอนเพื่อให้ระบุธนาคารรับโอนได้อย่างถูกต้อง และระบุจำนวนเงินที่ต้องการโอน โดยปกติการโอนด้วยแอปธนาคารจะมีฟังก์ชันแปลงค่าเงินให้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้า 2 – 3 แอปเพื่อแปลงค่าเงินไปมาให้ยุ่งยาก
   
สำหรับการโอนเงินำปต่างประเทศนั้น จะใช้เวลาประมาณตั้งแต่ 1 ชั่วโมง – 5 วัน มีความผันผวนด้านเวลามาก และค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระหลัก ๆ จะเป็นค่าธรรมเนียมฝั่งผู้รับและผู้โอน ทั้งนี้ต้องศึกษากรณีอื่น ๆ ด้วยว่าจะเสียค่าธรรมเนียมอื่นแฝงด้วยไหม
#10

   สำหรับใครที่เป็นนักลงทุนมือใหม่ ไม่มีเวลาในการศึกษาหรือติดตามสภาวะตลาดทุน รวมถึงมีเงินลงทุนไม่มาก แต่อยากเริ่มลงทุน ถือว่ามาถูกทางแล้วค่ะเพราะกองทุนรวมนั้น ถือเป็นการลงทุนกองทุนรวมที่คุณน่าจะเหมาะสม

กองทุนรวม เป็นการระดมทุนจากผู้สนใจลงทุนจนได้เงินจำนวนมากเพื่อนำไปลงทุน โดยมีบริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวมเป็นผู้ดำเนินการ กองทุนรวมมีข้อดีดังนี้
บริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเป็นคนดูแลการลงทุน
ลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์
หน่วยลงทุนมีราคาไม่สูง ผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นการลงทุนได้หรือสามารถเลือกลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ได้ด้วยเงินลงทุนที่ไม่สูงมาก แต่สามารถกระจายการลงทุนได้มาก

ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในกองทุนรวม ได้แก่
กำไรจากการขายหน่วยลงทุน
เงินปันผล
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
   
แล้ว กองทุนรวมมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กัน ดังนี้
กองทุนรวมตลาดเงิน
   เป็นกองทุนรวมที่มีการลงทุนในเงินฝากหรือตราสารหนี้ที่มีอายุเหลือไม่เกิน 1 ปี เป็นกองทุนที่มีระดับความเสี่ยงต่ำ
กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ หุ้น DR   
   เป็นกองทุนที่โดยลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ แต่ด้วยสภาวะตลาดต่างประเทศที่แตกต่างจากตลาดในประเทศจึงเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงจากสภาวะตลาด แต่ยังมีความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยน
กองทุนรวมตราสารหนี้
   เป็นกองทุนที่ลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ มีความเสี่ยงปานกลางไปจนถึงค่อยข้างต่ำ
กองทุนรวมตราสารทุน
   เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหุ้น มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนต้องยอมรับและเข้าใจการขาดทุนในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เป็นกองทุนรวมที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว
กองทุนรวมผสม
   เป็นกองทุนในหุ้น ตราสารหนี้ ลงทุนพันธบัตรรัฐบาล และสินทรัพย์ต่าง ๆ มีความเสี่ยงปานกลางไปจนถึงค่อนข้างสูง
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
   เงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) สามารถลดหย่อนภาษีในปีที่มีการลงทุน โดยต้องถือหน่วยลงทุนไว้ครบ 10 ปี
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
   เงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) สามารถลดหย่อนภาษีในปีที่มีการลงทุน โดยลงทุนต่อเนื่องกันทุกปีอย่างน้อย 5 ปี แต่สามารถเว้นได้ไม่เกิน 1 ปี หากต้องการขายหน่วยลงทุนจะขายได้ก็ต่อเมื่อผู้ลงทุนมีอายุ 55 ปีขึ้นไป เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทุนจะมีเงินใช้ในวัยเกษียณ
กองทุนรวมที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
   จัดเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงมากและเหมาะกับการลงทุนระยะยาว ทรัพย์สินทางเลือกที่ลงทุนได้แก่ สินค้า สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมันดิบ เป็นต้น รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์
   
แต่ไม่ว่าจะการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นก่อนลงทุนกองทุนรวมควรถามตัวเองก่อนว่าต้องการซื้อกองทุนลงทุนระยะสั้น ระยะปานกลาง หรือระยะยาว รวมถึงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และถึงแม้กองทุนรวมจะมีมืออาชีพดูแลการลงทุนให้เรา แต่เราก็ควรหมั่นอัปเดตข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการลงทุนกองทุนรวมอยู่เสมอ
#11
เรื่องการเป็นหนี้บัตรเครดิต เป็นหนี้นอกระบบนั้นไม่ไกลตัวเลย แต่ถ้าเราอยากจะปิดหนี้บัตรเครดิต หนี้อื่นๆ นั้นจะทำอย่างไรได้บ้าง สมัครสินเชื่อออนไลน์เป็นคำตอบ

เพราะปัจจุบันเราสามารถสมัครสินเชื่อกู้เงินด่วนออนไลน์ได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของสถาบันการเงิน แต่กระนั้นก็จำเป็นต้องรู้เงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนด รวมถึงมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ เพื่อให้การ ขอ กู้เงินออนไลน์ ผ่านได้อย่างราบรื่น

   สิ่งที่เราควรทราบก่อนกู้เงินด่วนจากสถาบันการเงิน
- ตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐานของตนเองในฐานะ "ผู้กู้" ก่อนยื่นขอ เงินกู้ออนไลน์ โดยต้องดูว่าคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนดไว้หรือไม่ โดยเฉพาะคุณสมบัติพื้นฐาน คือ อายุต้องไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์, รายได้เฉลี่ยต่อเดือนจะต้องมากกว่า 6,000 บาท สำหรับกรณีที่ต้องการขอสินเชื่อบุคคล และรายได้ต่อเดือนจะต้องสูงกว่า 15,000 บาท ในกรณีที่ต้องการสมัครบัตรเครดิต นอกจากนี้ยังต้องดู "สถานภาพการจ้างงาน" ของตนเองด้วย หากยังเป็นลูกจ้างทดลองงาน ก็ควรรอให้ได้รับการปรับสถานะเป็นลูกจ้างประจำก่อน เพื่อลดโอกาสถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
- หาข้อมูล และทำความเข้าใจเกี่ยวกับสินเชื่อประเภทต่าง ๆ ของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ว่ามีสถาบันการเงินไหนที่มี เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ก็ควรเลือกสมัครเป็นลำดับต้น ๆ เพราะดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำหมายถึงภาระต้นทุนทางการเงินที่จะลดลงได้มากในแต่ละเดือน
- เลือกสมัครสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่ไม่เคยถูกปฏิเสธมาก่อน เพราะหากว่าว่าเคยยื่นขอสินเชื่อและถูกปฏิเสธมาแล้ว ต้องหลีกเลี่ยงการยื่นขอสินเชื่อซ้ำ เพราะข้อมูลต่าง ๆ จะถูก Record ไว้เรียบร้อยแล้ว จึงทำมีโอกาสมากที่จะได้รับการปฏิเสธสินเชื่อซ้ำ โดยเฉพาะในกรณีที่ยื่นขอซ้ำภายในช่วงระยะเวลา 1 เดือน
- ต้องมีวินัยทางการเงินและรับผิดชอบภาระหนี้ที่มีอยู่ให้ดี เพื่อรักษาเครดิตทางการเงินของตนเองให้อยู่ในระดับที่ดี และไม่ควรมีประวัติการติดในบัญชีดำของเครดิตบูโรหรือมีประวัติชำระหนี้ล่าช้า หรือชำระเพียงขั้นต่ำ เพราะข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้จะถูกบันทึกไว้ในระบบและสถาบันการเงินทุกแห่งสามารถดึงมาพิจารณาก่อนอนุมัติสินเชื่อได้ ซึ่งหากมีปัญหาด้านเครดิตก็จะมีผลให้สถาบันการเงินปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อได้ด้วย
- สัดส่วนหนี้ต่อรายได้เป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญ เพราะเป็นตัวแปรที่บ่งชี้ว่ามีความสามารถในการชำระหนี้ใหม่ได้หรือไม่ ดังนั้นหากเดิมเคยมีภาระหนี้อยู่ไม่ว่าจะเป็นหนี้บ้าน, ผ่อนรถหรือค่าผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ก็ควรนำภาระเหล่านี้มาคำนวนดูว่าสูงกว่า 30% ของรายได้ต่อเดือนหรือไม่ หากว่าสูงกว่า 30% ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกปฏิเสธสินเชื่อ เพราะเป็นสิ่งสะท้อนการด้อยความสามารถในการชำระหนี้นั่นเอง
-เลือกกู้เงินกับสถาบันการเงินที่มีเงินเดือนเข้าเป็นประจำ เพราะการมีเงินรายได้เข้าบัญชีนี้เป็นเครื่องการันตีได้ว่าสถานะทางการเงินมีความน่าเชื่อถือ ทำให้มีโอกาสที่สินเชื่อที่สมัครไปจะผ่านฉลุย
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการสมัครสินเชื่อแบบปกติหรือสินเชื่อออนไลน์ โดยเอกสารสำคัญที่ว่านี้ก็คือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, หลักฐานแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนหรือใบรับรองเงินเดือน เป็นต้น เพื่อความรวดเร็วในการตรวจสอบ

แม้ว่าผลิตภัณฑ์เงินกู้ที่ยื่นสมัครสินเชื่อออนไลน์กับสถาบันการเงินจะเป็นประเภท "สินเชื่ออนุมัติไว" แต่การอนุมัติก็มีหลักเกณฑ์ที่เข้มงวด หากใครที่เตรียมตัวให้ครบถ้วนอาจจะมีโอกาสได้รับการอนุมัติที่ไวกว่า
#12
การเก็บออมถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องใส่ใจเพื่อจะได้มีเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน แต่ก็มีบ้างที่เงินเก็บออมไม่พอและอยู่ในจังหวะที่ต้องใช้เงินฉุกเฉิน การ กู้เงินด่วน จึงกลายเป็นทางเลือกที่คนเลือกใช้เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยในปัจจุบันที่ผู้ให้บริการ เงินกู้ออนไลน์ เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ต้องศึกษาด้วยว่า กู้เงินออนไลน์ ต้องทำอย่างไรถึงได้อนุมัติเร็ว ซึ่งวันนี้เรามีข้อมูลมาแชร์กัน

   กรณีที่มีความจำเป็นต้องขอยื่นสมัคร สินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็วสิ่งแรกที่ต้องนึกถึงคือความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเอง หลังจากนั้นจึงค่อยหาข้อมูลผู้ให้บริการ สินเชื่อวงเงินสูง รวมถึงควรทำความเข้าใจขั้นตอนและกระบวนการในการขอ สินเชื่อกู้เงินด่วน ด้วย โดยสรุปหากต้องการให้การกู้เงินจากธนาคารหรือการ กู้เงินออนไลน์ ได้รับการอนุมัติเร็ว ควรปฏิบัติดังนี้
เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ในการ กู้เงินด่วน ให้พร้อม โดยทั่วไปประกอบด้วย
เอกสารประจำตัว เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) และสำเนาทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
เอกสารเกี่ยวกับรายได้ สำหรับผู้ที่มีรายได้ประจำ คือ ใบรับรองเงินเดือนหรือหลักฐานการจ่ายเงิน กับ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สำหรับผู้ที่มีอาชีพอิสระประกอบด้วยสัญญาจ้าง ใบประกอบวิชาชีพ รายการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน หรือหลักฐานรายได้อื่น ๆ
เอกสารอื่น ๆ เช่น สัญญาจะซื้อจะขายหรือสัญญากู้เงิน
เพื่อให้ กู้สินเชื่อ ถูกพิจารณาได้อย่างราบรื่น ควรมีการค้ำประกันและหลักประกัน เช่น เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงิน หุ้นกู้ หรืออสังหาริมทรัพย์ ที่แสดงให้ธนาคารมั่นใจว่าหากผู้กู้ชำระหนี้ตามสัญญาไม่ได้ก็ยังมีทางได้รับชำระหนี้คืน เช่น ยึดหลักประกันมาขายทอดตลาด หรือให้ผู้ค้ำประกันต้องชำระหนี้แทน
ศึกษาเกณฑ์ที่ธนาคารหรือผู้ให้บริการสินเชื่อที่จะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ แล้วยื่นเอกสารพร้อม ๆ กันอย่างน้อย 3 แห่ง เพราะแต่ละแห่งมีระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติไม่เท่ากัน ซึ่งโดยทั่วไปเกณฑ์ที่ใช้พิจารณาหลัก ๆ ประกอบด้วย
นโยบายของผู้ให้สินเชื่อ เช่น บางรายกำหนดว่าผู้กู้ต้องไม่มีประวัติค้างชำระหนี้ ในช่วง 12 เดือนก่อนหน้า
วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ เช่น ใช้เป็นเงินหมุนเวียนในการทำธุรกิจ หรือลงทุนเพื่อขยายโรงงาน
ความสามารถในการชำระหนี้ เช่น ความน่าเชื่อถือของผู้กู้ ความมั่นคงทางรายได้ สินทรัพย์หรือเงินฝากของผู้กู้ ผู้ค้ำประกัน หรือปัจจัยที่อาจส่งผลต่อรายได้ เช่น ปัญหาเงินเฟ้อ เป็นต้น
กรณีที่ถูกปฏิเสธการกู้ ผู้กู้สามารถขอทราบเหตุผลที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากธนาคารหรือผู้ให้บริการ เงินกู้ออนไลน์ ได้ เพื่อจะได้นำไปพิจารณาปรับปรุงคุณสมบัติให้สามารถยื่นกู้ผ่านในอนาคต เช่น หนี้คงค้างสูงเกินไป หรือรายได้ไม่พอต่อการชำระหนี้ เป็นต้น
พึงคำนึงอยู่เสมอว่ามีหนี้ก็ต้องจ่าย ดังนั้นผู้กู้จะต้องมีการชำระหนี้ตามกฎเกณฑ์ของธนาคารหรือผู้ให้บริการเงินกู้อย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาเครดิตให้ตัวเองกรณีที่ในอนาคตอาจมีความจำเป็นจะต้องมีการขอ เงินกู้ด่วน จากสถาบันการเงินอื่น ๆ ด้วย

ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการขอ สินเชื่อวงเงินสูง จากธนาคารหรือผู้ให้บริการเงินกู้ ซึ่งเรานำมาแชร์กันเพื่อจะได้เตรียมตัวให้พร้อม และเพิ่มโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่ออย่างรวดเร็วด้วย
#13
   การได้มีบ้านที่ดี เดิน ทางสะดวก อยู่ในสิ่งแวดล้อมดีๆ น่าจะเป็นฝันของหลายคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถจ่ายเงินก้อนเพื่อซื้อบ้านได้ในครั้งเดียว ดังนั้นทางเลือกที่ใช้แก้ปัญหาข้อนี้คือการ กู้บ้านซึ่งแต่ละธนาคารก็มีเงื่อนไขการ กู้เงินทำบ้าน อัตราดอกเบี้ยบ้าน และระยะเวลาในการชำระหนี้เงินกู้แตกต่างกัน ดังนั้นเราจะมาแนะนำเทคนิคการกู้อย่างไรให้ได้ ดอกเบี้ยกู้บ้าน ต่ำ พร้อมวิธีเตรียมตัวผ่อนบ้านให้หมดเร็วกัน

   การ ผ่อนบ้านกับธนาคาร เป็นการยื่นเอกสารเพื่อขอสินเชื่อบ้านจากธนาคารโดยให้สัญญาว่าจะมีการผ่อนชำระหนี้พร้อม ดอกเบี้ยบ้าน เป็นประจำทุกเดือนจนกว่าจะชำระหนี้ครบตามจำนวนที่ขอ กู้เงินทำบ้าน ไว้กับธนาคาร ซึ่งแต่ละธนาคารก็มีเงื่อนไขการให้เงินกู้และ อัตราดอกเบี้ยบ้าน ที่แตกต่างกัน โดยผู้กู้จะต้องพิจารณา คำนวณสินเชื่อบ้าน ก่อนการตัดสินใจยื่นกู้ ยกตัวอย่างธนาคารและโครงการสินเชื่อที่น่าสนใจ เช่น

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (GHB) ให้ดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 1.99% ขณะที่ให้วงเงินกู้สูงถึง 1 ล้าน 2 แสนบาท โดยเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่เป็นระยะเวลา 4 ปี รวมทั้งให้ผ่อนได้นานถึง 40 ปี โดย 7 ปีแรกชำระหนี้ในจำนวนคงที่เดือนละ 5,000 บาท
ธนาคารออมสิน (GSB) ให้ ดอกเบี้ยกู้บ้าน เฉลี่ย 3 ปีต่ำสุดคือ 2.65% โดยแบ่งเป็นปีแรก 1.95% ส่วนปีที่ 2-3 คิดในอัตรา MRR-3.245% แต่ต้องทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อด้วย
ธนาคารกรุงไทย (KTC) ให้สินเชื่อบ้านแบบทำประกัน โดยมีดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.00% โดยในปีแรกชำระ ดอกเบี้ยบ้าน เพียง 0.56% ส่วนในปีที่ 2-3 อยู่ที่ MRR-2% แต่หากไม่มีการทำประกัน ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.08% โดยในปีแรก ตั้งแต่เดือน ม.ค - ก.ย. ชำระดอกเบี้ย 0.56% ส่วนเดือน ต.ค. - ธ.ค. ชำระที่ 1.56% สำหรับปีที่ 2-3 อยู่ที่ MRR-2.00% สิ่งที่แตกต่างจากที่อื่นคือสินเชื่อบ้านกรุงไทยสามารถผ่อนต่ำ ล้านละ 3,000 บาท/เดือนในปีแรก และผ่อนได้นานถึง 40 ปี และให้วงเงินกู้สูง 100%

โดยเทคนิคที่เราจะผ่อนบ้านได้หมดเร็ว คือการโปะหรือจ่ายชำระหนี้ในแต่ละเดือนให้มากกว่าจำนวนที่ต้องจ่ายปกติ เช่น ผ่อนบ้านกับธนาคารอาคารออมสินที่ให้ดอกเบี้ยต่ำใน 3 ปีแรก เราก็จ่ายชำระหนี้เดือนละเท่า ๆ กันไปก่อนจนครบ 3 ปี เพราะยังมีอัตราดอกเบี้ยต่ำอยู่ พอในปีที่ 4 เราค่อยชำระเงินในแต่ละงวดให้มากกว่าเดิมเพื่อลดภาระเงินต้นที่กู้ไว้กับธนาคาร ก็จะทำให้ระยะเวลาในการชำระหนี้ลดลงตามไปด้วย หรืออีกวิธีคือการ "รีไฟแนนซ์" หมายถึงพอครบกำหนด 3 ปีที่ดอกเบี้ยต่ำเราก็ไปติดต่อขอกู้กับธนาคารอื่นใหม่เพื่อนำเงินกู้มาโปะหนี้ที่เดิม แล้วจ่ายดอกเบี้ยต่ำกับธนาคารใหม่ไปเรื่อย ๆ เป็นต้น

แต่สำหรับใครที่อาจจะมีบ้านแต่มีปัญหาการเงิน อาจจะลองปรึกษาสินเชื่อกู้บ้านแลกเงิน หรืออบยากผ่อนคอนโดเดือนละ 5000 บาท ก็สามารถลองสอบถามกับสถาบันการเงินได้เลย
#14
เรื่องของการลงทุนกลายเป็นสิ่งที่ธรรมดาเป็นอย่างมาก เพราะปัจจุบันไม่ว่าใครก็สามารถลงทุนได้ เพื่อให้เงินที่เก็บสะสมไว้ไปสร้างผลตอบแทนจากกองทุนรวมที่สูงกว่าการฝากเงินในธนาคารตามปกติ การลงทุนกับกองทุนรวม ก็เป็นหนึ่งในรูปแบบการลงทุนที่นักเริ่มลงทุนให้ความสนใจ แต่แน่นอนที่ขึ้นชื่อว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้นผู้สนใจที่จะลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนว่า กองทุนรวมคืออะไร
กองทุนรวม คือ การที่เราเอาเงินไปรวมกันแล้วฝากให้ผู้จัดการกองทุน ซึ่งก็คือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทำหน้าที่บริหารเงินทุนให้ เพื่อสร้างผลตอบแทน ซึ่งในแต่ละกองทุน ก็จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนจะซื้อกองทุนรวมใด ๆ ผู้ลงทุนควรศึกษาว่า กองทุนรวมนั้น ๆ เขาเอาเงินเรารวมกันไปซื้ออะไร นั่นก็คือ ศึกษาหนังสือชี้ชวนของแต่ละกองทุน ผลตอบแทนกองทุนรวม ถ้าสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ การลงทุนผ่านกองทุนรวม คือการฝากให้ผู้มีความรู้และประสบการณ์ในการลงทุนเป็นผู้ลงทุนให้นั่นเอง
   หลังจากที่เราเลือกได้แล้ว ผลตอบแทนของ การลงทุนในกองทุนรวม ประกอบด้วย
กำไร/ขาดทุนจากผลต่างราคาหน่วยลงทุน (Capital Gain) เมื่อหน่วยลงทุนที่เราซื้อมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในตอนที่เราขาย เราก็จะได้กำไร แต่หากเราขายตอนที่มูลค่าหน่วยลงทุนปรับลดลงเราก็จะขาดทุนนั่นเอง ซึ่งกำไรของการลงทุนกับกองทุนรวม ในส่วนนี้ไม่ต้องเสียภาษี
เงินปันผล (Dividend) กองทุนรวมแบ่งตามประเภทการจ่ายเงินปันผลได้ 2 แบบ คือ กองทุนรวมแบบจ่ายปันผล และกองทุนรวมแบบไม่จ่ายปันผล ดังนั้นหากผู้ลงทุนต้องการเงินปันผล ก็ต้องเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลเท่านั้น เงินปันผลที่ผู้ลงทุนได้ก็คือส่วนต่างของราคาหน่วยลงทุน ก็คือกำไรจากการที่กองทุนเอาเงินไปลงทุนต่อนั่นเอง ซึ่งกำไรในส่วนนี้ต้องเสียภาษีเงินได้
สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม SSF และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF นับเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่อยากลงทุนและได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีไปพร้อม ๆ กัน

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ เปิดบัญชีกองทุนรวมเป็นช่องทางการลงทุนหนึ่งที่เหมาะกับมือใหม่ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยเลือกสินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหุ้นต่างประเทศ หรืออยากเปิดบัญชีลงทุนกองทุนรวม เป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้างเงินที่เก็บสะสมให้งอกเงยขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนต้องศึกษาหาความรู้ เลือกลงทุนในกองทุนรวมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่น่าเชื่อถือ ก็จะลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
#15
   ไม่ว่าใครก็คงจะอยากมีบ้าน ที่อยู่อาศัยที่สะดวกสบาย อยู่ในทำเลที่เดินทางได้ง่าย ซึ่งปัญหาที่เหมือน ๆ กันของทุกคนคือจะไม่สามารถจ่ายเงินก้อนเพื่อซื้อบ้านได้ในครั้งเดียว ดังนั้นทางเลือกที่ใช้แก้ปัญหาข้อนี้คือการยื่นกู้สินเชื่อซื้อบ้านนั้น จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเราสามารถผ่อนบ้านกันธนาคารได้โดยตรง

   การ ผ่อนบ้านกับธนาคาร หมายถึง การยื่นเอกสารเพื่อขอสินเชื่อบ้านจากธนาคารโดยให้สัญญาว่าจะมีการผ่อนชำระหนี้พร้อม ดอกเบี้ยบ้าน เป็นประจำทุกเดือนจนกว่าจะชำระหนี้ครบตามจำนวนที่ขอ กู้เงินทำบ้าน ไว้กับธนาคาร ซึ่งแต่ละธนาคารก็มีเงื่อนไขการให้เงินกู้และ อัตราดอกเบี้ยบ้าน ที่แตกต่างกัน และยังมีวิธีผ่อนค่าบ้านให้หมดเร็ว โดยผู้กู้จะต้องพิจารณา คำนวณสินเชื่อบ้าน ก่อนการตัดสินใจยื่นกู้สินเชื่อบ้านร่วม หรือกู้บ้านเอง วันนี้เรามีสินเชื่อที่น่าสนใจมาแนะนำกัน

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (GHB) ให้ดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 1.99% ขณะที่ให้วงเงินกู้สูงถึง 1 ล้าน 2 แสนบาท โดยเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่เป็นระยะเวลา 4 ปี รวมทั้งให้ผ่อนได้นานถึง 40 ปี โดย 7 ปีแรกชำระหนี้ในจำนวนคงที่เดือนละ 5,000 บาท
ธนาคารออมสิน (GSB) ให้ ดอกเบี้ยกู้บ้าน เฉลี่ย 3 ปีต่ำสุดคือ 2.65% โดยแบ่งเป็นปีแรก 1.95% ส่วนปีที่ 2-3 คิดในอัตรา MRR-3.245% แต่ต้องทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อด้วย
ธนาคารกรุงไทย (KTC) ให้สินเชื่อบ้านแบบทำประกัน โดยมีดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.00% โดยในปีแรกชำระ ดอกเบี้ยบ้าน เพียง 0.56% ส่วนในปีที่ 2-3 อยู่ที่ MRR-2% แต่หากไม่มีการทำประกัน ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.08% โดยในปีแรก ตั้งแต่เดือน ม.ค - ก.ย. ชำระดอกเบี้ย 0.56% ส่วนเดือน ต.ค. - ธ.ค. ชำระที่ 1.56% สำหรับปีที่ 2-3 อยู่ที่ MRR-2.00% สิ่งที่แตกต่างจากที่อื่นคือสินเชื่อบ้านกรุงไทยสามารถผ่อนต่ำ ล้านละ 3,000 บาท/เดือนในปีแรก และผ่อนได้นานถึง 40 ปี และให้วงเงินกู้สูง 100%

สำหรับใครที่อยากได้เทคนิคง่าย ๆ ที่จะทำให้ผ่อนบ้านได้หมดเร็วคือการโปะหรือจ่ายชำระหนี้ในแต่ละเดือนให้มากกว่าจำนวนที่ต้องจ่ายปกติ เช่น ผ่อนบ้านกับธนาคารอาคารออมสินที่ให้ดอกเบี้ยต่ำใน 3 ปีแรก เราก็จ่ายชำระหนี้เดือนละเท่า ๆ กันไปก่อนจนครบ 3 ปี เพราะยังมีอัตราดอกเบี้ยต่ำอยู่ พอในปีที่ 4 เราค่อยชำระเงินในแต่ละงวดให้มากกว่าเดิมเพื่อลดภาระเงินต้นที่กู้ไว้กับธนาคาร ก็จะทำให้ระยะเวลาในการชำระหนี้ลดลงตามไปด้วย หรืออีกวิธีคือการ รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารเดิมเพิ่มวงเงิน เมื่อครบกำหนด 3 ปีที่ดอกเบี้ยต่ำเราก็ไปติดต่อขอกู้กับธนาคารอื่นใหม่เพื่อนำเงินกู้มาโปะหนี้ที่เดิม แล้วจ่ายดอกเบี้ยต่ำกับธนาคารใหม่ไปเรื่อย ๆ เป็นต้น

โดยเทคนิคที่อยากแนะนำให้ได้ใช้กันเพื่อการผ่อนบ้านให้หมดได้ไวขึ้น จะได้กลายเป็นเจ้าของบ้านที่ใช่ ในทำเลที่ชอบได้อย่างสมบูรณ์ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี และสามารถผ่อนชำระสินเชื่อได้อย่างราบรื่น