หลายคนที่ผ่อนบ้านไปสักระยะอาจเริ่มรู้สึกว่า ดอกเบี้ยสูงเกินไป จ่ายค่างวดบ้านเท่าเดิม แต่เงินต้นลดลงช้า นี่เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาต้องพิจารณา รีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยและผ่อนบ้านได้สบายขึ้น วันนี้เรามาดูวิธีรีไฟแนนซ์บ้านให้คุ้มที่สุด!
1. เข้าใจข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน
✅ ลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ค่างวดบ้านถูกลง
✅ ช่วยลดภาระดอกเบี้ยรวมตลอดอายุสัญญา
✅ อาจได้รับเงินก้อนเพิ่ม หากขอสินเชื่อในวงเงินที่สูงขึ้น
แต่ต้องไม่ลืมว่า รีไฟแนนซ์อาจมีค่าธรรมเนียม อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน (https://krungthai.com/th/personal/loan/housing-loan/392) เช่น ค่าจดจำนองใหม่ ค่าประเมินหลักทรัพย์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ดังนั้น ควรคำนวณค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก่อนตัดสินใจ
2. เลือกธนาคารที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
คุณสามารถรีไฟแนนซ์ได้ทั้ง ธนาคารเดิมและธนาคารใหม่ แต่แต่ละตัวเลือกมีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน:
ธนาคารเดิม: อนุมัติง่ายกว่า แต่ดอกเบี้ยอาจลดลงไม่มาก
ธนาคารใหม่: ได้ข้อเสนอที่ดีกว่า แต่ต้องเตรียมเอกสารใหม่ทั้งหมดและอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
เทคนิคสำคัญ: ลองเปรียบเทียบ อัตราดอกเบี้ย และ ค่าธรรมเนียมทั้งหมด ของแต่ละธนาคารก่อนตัดสินใจ
3. รักษาเครดิตทางการเงินให้ดี
รีไฟแนนซ์บ้านก็เหมือนการขอสินเชื่อใหม่ ธนาคารจะตรวจสอบเครดิตของคุณก่อนอนุมัติ ดังนั้น:
ควรผ่อนชำระหนี้ตรงเวลาทุกเดือน
หลีกเลี่ยงการมีหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้สินเชื่อที่มากเกินไป
ควรมียอดเงินในบัญชีให้คงที่และเดินบัญชีสม่ำเสมอ
หากคุณมีเครดิตดี รีไฟแนนซ์ก็จะผ่านง่ายและได้รับดอกเบี้ยต่ำสุด
✅ รีไฟแนนซ์ช่วยให้คุณลดดอกเบี้ยและผ่อนบ้านสบายขึ้น
✅ เลือกธนาคารให้ดี ดูทั้งดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
✅ รักษาเครดิตให้ดี เพื่อให้ขอสินเชื่อผ่านง่าย
ถ้าเตรียมตัวพร้อมรีไฟแนนซ์ค่าบ้าน (https://krungthai.com/th/personal/loan/housing-loan/392) ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แถมช่วยให้คุณประหยัดเงินไปได้มากในระยะยาว!